วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551

FlowChart












1.จงเขียนวิเคราะห์ งานเพื่อเขียนโปรแกรมคำนวณพื้นที่ สี่เหลี่ยม จัตุรัส จำนวน 1รูป1.1 วัตถุประสงค์ของงานคำนวนหาพื้นที่ สี่เหลี่ยมจัตุรัส1.2 ผลลัพธ์ ( Output )แสดงผลข้อมูล ของ ด้านยาว และด้านสูง และผลลัพธ์ที่ได้จากคำนวณหาพื่นที่Wight 5 CMHeight 5 CMArea 25 CM1.3 ข้อมูลนำเข้า ( In Put )ได้แก่ ด้าน * ด้าน1.4 ชื่อตัวแปรที่ใช้ Wight = ด้าน 1Height = ด้าน 2Area = พื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส 1.5 ลำดับงาน-ป้อนข้อมูล ด้าน 1 ( ยาว )-ป้อนข่อมูล ด้าน 2 ( สูง )-คำนวณหาพื่นที่สี่เหลี่ยม จัตุรัส-แสดงผลลัพธ์-จบการทำงาน













2.จงเขียนวิเคราะห์ งานเพื่อเขียนโปรแกรมคำนวณพื้นที่ สี่เหลี่ยม ผืนผ้า จำนวน 1รูป2.1 วัตถุประสงค์ของงานคำนวนหาพื้นที่ สี่เหลี่ยมผืนผ้า 2.2 ผลลัพธ์ ( Output )แสดงผลข้อมูล ของ ด้าน ยาว และ ด้าน สูง และผลลัพธ์ที่ได้จากคำนวณหาพื่นที่Wight 4 CMHeight 4 CMArea 16 CM2.3 ข้อมูลนำเข้า ( In Put )ได้แก่ ด้าน * ด้าน2.4 ชื่อตัวแปรที่ใช้ Wight = ด้าน 1Height = ด้าน 2Area = พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า2.5 ลำดับงาน-ป้อนข้อมูล ด้าน 1 -ป้อนข่อมูล ด้าน 2 -คำนวณหาพื่นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า-แสดง ผลลัพธ์-จลการทำงาน














3 จงเขียนวิเคราะห์ งานเพื่อเขียนโปรแกรมคำนวณหาอายุ3.1 วัตถุประสงค์ของงานคำนวนหาหาอายุ 3.2 ผลลัพธ์ ( Output )แสดงผลข้อมูล ของ ด้าน ยาว และ ด้าน สูง และผลลัพธ์ที่ได้จากคำนวณหาพื่นที่Birth = 1989Year = 2008Age = 193.3 ข้อมูลนำเข้า ( In Put )ได้แก่ Year - Birth 3.4 ชื่อตัวแปรที่ใช้ Birth = ปีเกิดYear = ปีปัจจุบันAce = อายุ3.5 ลำดับงาน-ป้อนข้อมูล ปีเกิด-ป้อนข่อมูล ปีปัจจุบัน-คำนวณหาอายุ-แสดงผลลัพธ์-จบการทำงาน















4 จงเขียนวิเคราะห์ งานเพื่อเขียนโปรแกรมคำนวณหาน้ำหนัก4.1 วัตถุประสงค์ของงานคำนวณหาน้ำหนัก4.2 ผลลัพธ์ ( Output )แสดงผลข้อมูล ของ Weight และผลลัพธ์ที่ได้จากคำนวณน้ำหนัก" Weight 1 = 40 กก." Weight 2 = 50 กก." Weight 3 = 60 กก.4.3 ข้อมูลนำเข้า ( In Put )ได้แก่ " Weight 1," Weight 2," Weight 34.4 ชื่อตัวแปรที่ใช้ " Weight 1 = น้ำหนักคนที่ 1" Weight 2 = น้ำหนักคนที่ 2" Weight 3 = น้ำหนักคนที่ 34.5 ลำดับงาน-ป้อนข้อมูล น้ำหนักนักศึกษา 3คน-ป้อนข่อมูล จำนวนทั้งหมด-คำนวณหาน้ำหนักเฉลี่ย -แสดงผลลัพธ์ -จบการทำงาน





5.จงเขียนวิเคราะห์ งานเพื่อเขียนโปรแกรมคำนวณหาเงินโบนัส 5เดือน5.1วัตถุประสงค์ของงานคำนวณหาเงินโบนัส 5เดือน5.2ผลลัพธ์ ( Output )แสดงผลข้อมูล ของ Salary/Monthและผลลัพธ์ที่ได้Salary/เงินเดือน = 50000 Bath.Bonus = 5 Month5.3ข้อมูลนำเข้า ( In Put )ได้แก่ เงินเดือนและโบนัส5.5ชื่อตัวแปรที่ใช้ " Bonus = จำนวนเงินโบนัส" Salary = เงินเดือน" Month = โบนัส 5.5ลำดับงาน-ป้อนข้อมูล เงินเดือน-ป้อนข่อมูล โบนัสที่ได้รับ-คำนวณหาจำนวนเงิน Bonus = Salary * Month-แสดงผลลัพธ์-จบการทำงาน



















วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2551

5.นิสิตใช้คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง

1.ใช้เพื่อความบันเทิง
2.หาข่าวสาร ต่างๆ
3.ศึกษาหาความรู้มากมาย

และอื่นๆมากมาย

ที่มา. ไม่มีที่มามาจากใจ

4.VLSI คืออะไร มีความสำคัญต่อคอมพิวเตอร์อย่างไร

VLSI คือ เทคโนโลยีแผงวงจรรวมได้พัฒนาขึ้นเป็น แผงวงจรรวมขนาดใหญ่ (LSI หรือ large-scale integartion) และจากนั้นก็มีการพัฒนาต่าเป็น แผงวงจรขนาดใหญ่มากVLSI) ซึ่งทำให้เกิด microprocessor ตัวโลกของโลก คือ Intel 4004 จากบริษัท Intel ซึ่งเป็นการใช้แผ่นชิฟเพียงแผ่นเดียวสำหรับเก็บ หน่วยควบคุม (control unit) และ คำนวณเลขตรรกะ (arithmetic-logic unit) ของคอมพิวเตอร์ทั้งหมดเทคนิคในการย่อทรานซีสเตอร์ให้อยู่กันอย่างหนาแน่นบนแผ่นซิลิกอนนี้ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากปัจจุบันสามารถเก็บทรานซิสเตอร์นับล้านตัวไว้ในชิปเพียงหนึ่งแผ่น ในส่วนของหน่วยบันทึกข้อมูลสำรอง (secondary storage) ก็ได้เพิ่มความจุขึ้นอย่างมากจนสามารถเก็บข้อมูลนับพันล้านตัวอักษรได้ในแผ่นดิสก์ขนาด 3 นิ้ เนื่องจากการเพิ่มความจุของหน่วยบันทึกข้อมูลสำรองนี่เอง ซอฟต์แวร์ชนิดใหม่ได้พัฒนาขึ้น เพื่อให้สามารถเก็บรวมรวบและบันทึกแก้ไขข้อมูลจำนวณมหาศาลที่ถูกจัดเก็บไว้ นั่นคือ ซอฟร์แวร์ ฐานข้อมูล (Data base ) นอกจากนี้ ยังมีการถือกำเนิดขึ้นของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในปี 1975 คือเครื่อง Altair ซึ่งใช้ชิป intel 8080 และถัดจากนั้นก็เป็นยุคของเครื่อง และ ตามลำดับ ในส่วนของซอฟต์แวร์ก็ได้มีการพัฒนาให้เป็นมิตรกับผู้ใช้ มีขนาดใหญ่และซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งมีการนำเทคนิคต่าง ๆ เช่น OOP (Object-Oriented Programming) และ Visual Programming มาเป็นเครื่องมือช่วยในการพัฒนา การพัฒนาที่สำคัญอื่นๆในยุคที่ 4 คือการพัฒนาเครื่องข่ายคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนกันได้ โดยการใช้งานภายในองค์กรนั้น ระบบเครื่อข่ายท้องถิ่น (Local Araa Networks) ซึ่งนิยมเรียกว่า แลน (LANs) จะมีบทบาทในการเชื่องโยงเครื่องนับร้อยเข้าด้วยกันในพื้นที่ไท่ห่าวกันนัก ส่วนระบบเครื่องข่ายระยะไกล ( Wide Area Networks ) หรือ แวน (WANs) จะทำหน้าที่เชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกลคนละซีกโลกเข้าด้วยกัน





http://blog.hunsa.com/gracy6111/blog/5111/2

3. ข้อมูลและสารสนเทศแตกต่างกันอย่างไร


ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สถานที่ สิ่งของต่างๆ ซึ่งมีการเก็บรวบรวมเอาไว้ และสามารถเรียกเอามาใช้ประโยชน์ได้ในภายหลัง ข้อมูลจึงจำเป็นต้องเป็นข้อมูลที่ดีมีความถูกต้องแม่นยำaaaaaสำหรับ สารสนเทศ หมายถึง สิ่งที่ได้จากการนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้มาประมวลผล เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ตามจุดประสงค์

สารสนเทศ จึงหมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการเลือกสรรให้เหมาะสมกับการใช้งานให้ทันเวลา และอยู่ในรูปที่ใช้ได้ สารสนเทศที่ดีต้องมาจากข้อมูลที่ดี การจัดเก็บข้อมูลและสารสนเทศจะต้องมีการควบคุมดูแลเป็นอย่างดี เช่น อาจจะมีการกำหนดให้ผู้ใดบ้างเป็นผู้มีสิทธิ์ใช้ข้อมูลได้ ข้อมูลที่เป็นความลับจะต้องมีระบบขั้นตอนการควบคุม กำหนดสิทธิ์ในการแก้ไขหรือการกระทำกับข้อมูลว่าจะกระทำได้โดยใครบ้าง นอกจากนี้ข้อมูลที่เก็บไว้แล้วต้องไม่เกิดการสูญหายหรือถูกทำลายโดยไม่ได้ตั้งใจaaaaaการจัดเก็บข้อมูลที่ดี จะต้องมีการกำหนดรูปแบบของข้อมูลให้มีลักษณะง่ายต่อการจัดเก็บ และมีรูปแบบเดียวกัน ข้อมูลแต่ละชุดควรมีความหมายและมีความเป็นอิสระในตัวเอง นอกจากนี้ไม่ควรมีการเก็บข้อมูลซ้ำซ้อนเพราะจะเป็นการสิ้นเปลืองเนื้อที่เก็บข้อมูล

2. คอมพิวเตอร์แบบฝังคืออะไร


คอมพิวเตอร์แบบฝัง (Embeddded computer)
เป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกฝังไปในอุปกรณ์ ทำให้มองไม่เห็นรูปลักษณ์ภายนอกว่าเป็นคอมพิวเตอร์ นิยมใช้ในการทำงานเฉพาะด้านโดยควบคุมการทำงานบางอย่าง เช่น เตาอบไมโครเวฟ ระบบการเติมน้ำมัน นาฬิกาข้อมือ อุปกรณ์เล่นเกม เป็นต้น สำหรับประเทศไทยปัจจุบันมีซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ใช้แล้วหลายแห่ง เช่น - ศูนย์เทคโนโลยี อิเล็คทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) มี 2 เครื่องสำหรับให้บริการมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และหน่วยราชการต่าง ๆ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มี 1 เครื่อง สำหรับให้บริการทางด้านวิชาการ งานวิจัยต่าง ๆ - กรมอุตุนิยมวิทยา มี 1 เครื่อง ใช้ในการพยากรณ์อากาศ ฉะนั้นสรุปได้ว่า ข้อแตกต่างระหว่างไมโครคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่จะแตกต่างกันในด้านความสามารถในการเก็บข้อมูล และความเร็วในการทำงานเนื่องจาก มินิคอมพิวเตอร์และเมนเฟรมมีหน่วยความจำขนาดใหญ่เก็บข้อมูลได้ยาก และสามารถประมวลผลโปรแกรมที่มีความซับซ้อนในเวลาที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถประมวลผลกับโปรแกรม หลาย ๆ โปรแกรมในเวลาพร้อมกันและผู้ใช้คอมพิวเตอร์หลาย ๆ คนสามารถใช้เครื่องพร้อม ๆ กันเวลาเดียวกันได้


1.คอมพิวเตอร์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง พร้อมรูปประกอบ

ประเภทของคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์สามารถจำแนกได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของขนาดเครื่องความเร็วในการประมวลผล และราคาเป็นข้อพิจารณาหลัก โดยทั่วไปนิยมจำแนกประเภทคอมพิวเตอร์เป็น 6 ประเภทดังนี้คือ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer) คอมพิวเตอร์เมนเฟรม (mainframe computer) มินิคอมพิวเตอร์ (minicomputer) เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ (server computer ) ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) และคอมพิวเตอร์แบบฝัง (embedded computer) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer)
เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด จึงราคาแพงมาก ความสามารถในการประมวลผลที่ทำได้มากกว่าพันล้านคำสั่งต่อวินาที ตัวอย่างการใช้งานคอมพิวเตอร์ประเภทนี้ เช่น การพยากรณ์อากาศการทดสอบทางอวกาศ และงานอื่น ๆ ที่มีการคำนวณที่ซับซ้อน



คอมพิวเตอร์เมนเฟรมหรือคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (mainframe computer)

เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพรองจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ สามารถรองรับการทำงานจากผู้ใช้ได้หลายร้อยคนในเวลาเดียวกัน ประมวลผลด้วยความเร็วสูง มีหน่วยความจำหลักขนาดใหญ่ ตลอดจนการจัดเก็บข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก คอมพิวเตอร์เมนเฟรมนิยมใช้กับองค์การขนาดใหญ่ที่มีการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้จำนวนมากในเวลาเดียวกันเช่น งานธนาคาร การจองตั๋วเครื่องบิน การลงทะเบียนและการตรวจสอบผลการเรียนของนักศึกษา เป็นต้น



มินิคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง (minicomputer)

เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานน้อยกว่าเมนเฟรมแต่สูงกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ และสามารถรองรับการทำงานจากผู้ใช้ได้หลายคนในการทำงานที่แตกต่างกัน จากจุดเริ่มต้นในการพัฒนาที่ต้องการให้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ทำงานเฉพาะอย่าง เช่น การคำนวณทางด้านวิศวกรรม ทำให้การพัฒนามินิคอมพิวเตอร์เจริญอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันธุรกิจและองค์การหลายประเภทนิยมนำมินิคอมพิวเตอร์มาใช้ในการให้บริการข้อมูลแก่ลูกค้า เช่น การจองห้องพักของโรงแรม การทำงานด้านบัญชีขององค์การธุรกิจ เป็นต้น


เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์(server computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่สนับสนุนการทำงานของคอมพิวเตอร์เครือข่ายซึ่งใช้ในการจัดสรรและใช้ทรัพยากรร่วมกัน เช่น แฟ้มข้อมูล โปรแกรมประยุกต์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ( เช่น เครื่องพิมพ์แลอุปกรณ์อื่น ๆ )
















ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer)
เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีผู้นิยมใช้แพร่หลายมากที่สุด ส่งผลให้การพัฒนาเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์มีลักษณะและรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ( desktop computer ) คอมพิวเตอร์พกพา ( portable computer ) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1.คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (desktop computer ) เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ( personal computer หรือ PC ) ที่มีขนาดเล็กเหมาะกับโต๊ะทำงานในสำนักงาน สถานศึกษาและที่บ้าน




2.คอมพิวเตอร์พกพา เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กเหมาะแก่การพกพาไปใช้ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น
- Notebook computer เป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่มีน้ำหนักประมาณ 2 - 4 กิโลกรัม อุปกรณ์ประกอบด้วยแป้นพิมพ์ขนาดมาตรฐาน ปกติจะมีเครื่องอ่านแผ่นดิสก์ โดยเฉพาะในปัจจุบันจะมีเครื่องอ่านแผ่นซีดีรอมด้วย




- Subnotebook computer เป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่มีขนาดเล็กกว่าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค โดยทั่วไปมีน้ำหนักน้อยกว่า 2 กิโลกรัม เพื่อเป็นการลดขนาดและน้ำหนัก ในบางครั้ง subnotebook จะไม่มีเครื่องอ่านแผ่นดิสก์ และจะใช้การ์ดบันทึกสำหรับงานเฉพาะอย่างแทน




- Laptop computer


มีน้ำหนักและขนาดใหญ่กว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คปกติน้ำหนักอยู่ระหว่าง 4 - 7 กิโลกรัม น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากคอมพิวเตอร์โดยโน้ตบุ๊คมาจากน้ำหนักของฮาร์ดดิสก์และจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่กว่า










- Hand - held computer ออกแบบขึ้นเพื่อใช้งานเฉพาะอย่างและนิยมใช้สำหรับงานที่มีการเคลื่อนย้าย เช่น การนับจำนวนสินค้า เป็นต้น
- Palmtop computer




เป็นคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้จัดการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ปฎิทินนัดหมายการประชุม ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ การบันทึกสิ่งจะต้องทำ เป็นต้น palmtopใช้แป้นพิมพ์ที่แตกต่างจากแป้นพิมพ์มาตรฐานและไม่มีฮาร์ดดิสก์สำหรับบันทึกข้อมูล
- Pen computer เป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่ใช้ปากกาเป็นอุปกรณ์ในการบันทึกข้อมูล ในบางครั้งก็จะใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลลงบนหน้าจอ และในบางครั้งอาจจะใช้ปากกานี้สำหรับเป็นอุปกรณ์เพื่อเลือกการทำงานบนจอภาพระบบปากกาหรือ pen system นี้ใช้โปรแกรมพิเศษเฉพาะระบบ และเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการพัฒนาคอมพิวเตอร์ประเภทนี้เนื่องจากมีผู้ใช้อย่างกว้างขวาง pen computer ประเภทที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายคือ personal digital assistant (PDA) หรือ personal communicator3.คอมพิวเตอร์แบบฝัง (embedded computer ) เป็นคอมพิวเตอร์ที่ฝังในอุปกรณ์ต่าง ๆ นิยมนำมาใช้ทำงานเฉพาะด้าน พิจารณาจากภายนอกจะไม่เห็นว่าเป็นคอมพิวเตอร์แต่จะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานบางอย่างของอุปกรณ์นั้นๆ คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ เช่น เครื่องเล่นเกม ระบบเติมน้ำมันอัตโนมัติ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ที่มา http://www.sa.ac.th/elearning/index14.htm

วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2551



เกาหลีตอบรับกระแสนักซิ่ง พร้อมเปิด Close beta แล้วโดย กองบรรณาธิการเว็บไซต์ ARiP.co.thอัพเดต 9 มิถุนายน 2008 เวลา 08:44 น. ถึงเวลานับถอยหลังกันแล้วสำหรับนักซิ่งทั้งหลายที่รอพิสูจน์ความแรงมันส์สะใจเกินพิกัด ของ RayCity โดยทีมงานผู้พัฒนาจาก J2M ประเทศเกาหลี มาเยือน Golden Soft ตอบรับกระแสความแรงที่มีอย่างเกินความคาดหมาย พร้อม Close Beta ทั่วประเทศ ในวันที่ 16 มิถุนายนนี้
หลังจาก RayCity เป็นเกมแข่งรถออนไลน์ MMORPG ที่มีผู้เล่นมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในเกาหลี และจากบทพิสูจน์ที่ผ่านมา RayCity ก็ได้กระแสการตอบรับอย่างท่วมท้น!! ในไทยไม่แพ้กัน อีกไม่นานความเร้าใจของการแข่งรถบนท้องถนนที่ก้าวล้ำเหนือจินตนาการ ที่จะท้าทายผู้เล่นเผชิญกับสุดยอดการประลองความเร็วเต็มพิกัดจะเริ่มสตาร์ท
สำหรับการ Close Beta ถึงจะออเดิร์ฟก่อนได้เพียง Level 20 แต่ Level รถก็ลุยได้ไม่จำกัด โดยจะเปิดแผนที่ด้านใต้ของแม่น้ำให้เล่นทั้งหมด ลุยได้ก่อนใน Track Racing ถึง 15 สนาม ก่อนที่จะได้ลุยใน Field Racing แม้ระบบ Cash Shop ยังไม่เปิด แต่มีระบบตลาดให้ทดสอบกัน รับรองว่าไม่มีที่ไหนมาก่อนแน่นอน